Gregg Jaden
ช่างภาพสายท่องเที่ยวและผู้สร้างภาพยนตร์
Gregg Jaden
Gregg Jaden เป็นช่างภาพ/ช่างถ่ายภาพยนตร์มืออาชีพ ที่ประจำอยู่นอกแมนฮัตตันบีช มลรัฐแคลิฟอร์เนีย Jaden หลงใหลในการเล่าเรื่องราว การกำกับ และการถ่ายภาพยนตร์ เขาทำงานร่วมกับองค์กรต่างๆ อย่างใกล้ชิดเพื่อปกป้องชีวิตสัตว์ป่า การอนุรักษ์ท้องทะเลและการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณ ด้วยการผสานรวมกันของการผจญภัย กิจกรรมกลางแจ้ง การเดินทาง และผู้คน ทำให้ Jaden เป็นที่รู้จักในการถ่ายทำภาพยนตร์ท่องโลกและภูมิทัศน์ที่แสนวิเศษ
“การทำสมาธิช่วยในเรื่องความคิดสร้างสรรค์โดยรวมและความแจ่มชัด” Gregg เผย “คุณรู้สึกได้ว่าควรจะทำในสิ่งที่เหมาะสมเมื่อไหร่ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสม และไม่คิดมากจนเกินไป”
ความอดทนและความหลงใหล
ผลงานภาพถ่ายที่ชื่อ “Patience” แม้จะไม่ใช่หนึ่งในผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Gregg Jaden แต่ทว่าเรื่องราวเบื้องหลังภาพนี้ทำให้เราเข้าใจว่า Gregg ได้เปลี่ยนตัวเองจากเจ้าของบริษัทเอเจนซี่โฆษณามาเป็นช่างภาพด้านการเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกและศิลปินได้อย่างไรภายในเวลาไม่ถึงห้าปี
Gregg ให้ความสำคัญกับจิตวิญญาณ เขาทำสมาธิทุกวันเพื่อรักษาสมดุลระหว่างการคิดกับการวางแผน การทำสมาธิช่วยให้ Gregg สัมผัสกับพลังงานที่งอกงามอยู่ภายในตัวและรอบๆ ตัวเขาและเขาได้นำพลังงานนั้นมาสู่การถ่ายภาพ ตั้งแต่แรงบันดาลใจไปจนถึงขั้นตอนภายหลังการถ่ายทำ
“การทำสมาธิช่วยในเรื่องความคิดสร้างสรรค์โดยรวมและความแจ่มชัด” Gregg เผย “คุณรู้สึกได้ว่าควรจะทำในสิ่งที่เหมาะสมเมื่อไหร่ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสม และไม่คิดมากจนเกินไป” ตอนที่เรากำลังถ่ายตู้ปลาขนาดมหึมาในมอนเทอเรย์ ผมเห็นอะไรบางอย่างหรือสองอย่างเคลื่อนที่อยู่หน้ากระจก แต่ที่ตรงนั้นเต็มไปด้วยรถเข็นเด็กและผู้คนมากมาย ถึงอย่างนั้น ผมก็รู้สึกว่า ผมน่าจะได้ภาพดีๆ แล้วจนเมื่อพิพิธภัณฑ์ใกล้จะปิดลง และครอบครัวสุดท้ายกำลังจะออกจากที่นั่น ผมได้ขอให้พ่อแม่คู่หนึ่งช่วยพาเด็กๆ ไปดูปลาครั้งสุดท้าย แล้วองค์ประกอบภาพก็เกิดขึ้นตรงหน้าผม ผมรีบจัดท่าจัดทางให้เด็กน้อยอย่างรวดเร็ว” Jaden ย้อนนึกพร้อมกับหัวเราะ
ด้วยมนตราแห่งจิตวิญญาณ Gregg Jaden ได้บรรลุความสำเร็จในธุรกิจครีเอทีฟที่ผู้ชมต่างตะลึงงันกับภาพและเนื้อหาที่เปี่ยมล้นของเขา งานของเขามีองค์ประกอบที่อธิบายไม่ได้ ซึ่งทำให้ผู้ที่ได้เห็นต้องหยุดและร้องว่า “ว๊าว! ภาพนี้กินใจฉันมาก” งานของ Gregg ได้รับการยกย่องในทั่วโลก
ความสำเร็จที่เกิดจากการเรียนรู้ด้วยตนเอง
เมื่อห้าปีก่อน Gregg เป็นหัวเรือใหญ่ของเอเจนซี่โฆษณาในลอสแอนเจลีส มีอยู่งานหนึ่ง บริษัทได้ว่าจ้างช่างภาพ ซึ่งปรากฏว่าฝีมือของเขาไม่โดดเด่นเท่าไหร่จน Gregg รู้สึกมั่นใจว่าตัวเขาทำได้ดีกว่านั้น เขาเลยไปซื้อกล้องมาตัวหนึ่งและซื้อเลนส์มา จากนั้นก็เริ่มลองผิดลองถูก หลังจากนั้นไม่นาน เขานำรูปถ่ายที่เขาถ่ายเองตรงหน้างานให้ลูกค้าดู และลูกค้าชอบมาก Gregg จึงเกิดแรงบันดาลใจและดำดิ่งสู่โลกของการถ่ายภาพ เขาถ่ายภาพภูมิทัศน์และกิจกรรมการเดินป่าปีนเขา เขาได้รับการยกย่องชื่นชมและได้รับการว่าจ้าง จากลูกค้าเพื่อเดินทางไปถ่ายทำในกิจกรรมต่างๆ และกลายเป็นช่างภาพแบบเต็มเวลา Gregg เรียนรู้ด้วยตนเองทั้งหมด ทุกอย่างที่เขาเรียนรู้เกี่ยวกับการถ่ายภาพและวิดีโอนั้นมาจากการลองผิดลองถูก โดยใช้ความรู้สึกและทดสอบทุกอย่างด้วยตนเอง “ภาพถ่ายช่วงแรกๆ ของผมแย่มาก” เขาย้อนอดีตให้ฟัง “มีครั้งหนึ่งผมถ่ายภาพหาดเรดอนโด (Redondo Beach) เพื่อฝึกฝีมือ และนิตยสารท่องเที่ยวฉบับหนึ่งที่มีชื่อเสียงของลอสแอนแองเจลีสได้เผยแพร่ภาพนั้นบนเว็บไซต์ ผมดีใจที่พวกเขาชอบภาพนั้น แต่ถึงตอนนี้ภาพนั้นก็ไม่ดีพอที่จะอยู่ในแกลเลอรี่ของผม ทุกครั้งที่ผมทำได้ตามเป้าหมาย ผมพยายามที่จะขยายขอบเขตออกไปอีก”
Gregg เตือนมือใหม่ว่าอย่าออมมือ เพราะลูกค้าต่างมองหาประวัติการทำงานที่ดีเยี่ยมและพอร์ตผลงานที่มากความสามารถ พวกเขาต้องการคนทำงานอิสระที่เข้าใจบริษัทของเขาและอุตสาหกรรมที่พวกเขาดำเนินธุรกิจอยู่ พวกเขามองหาครีเอทีฟมืออาชีพที่มีผลงานชัดเจนและเห็นได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Gregg ยังแนะนำให้มือใหม่เรียนรู้หลักการทั้งเรื่องการถ่ายภาพและการถ่ายวิดีโอ เพราะถึงแม้ลูกค้าจะระบุอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่บ่อยครั้งการเพิ่มภาพนิ่งหรือคลิปวิดีโอก็ช่วยเพิ่มมูลค่าให้งานของเราและเป็นการให้บริการแก่ลูกค้าได้เพิ่มขึ้น
อุปกรณ์ที่สำคัญ
นอกจากวิสัยทัศน์ที่สร้างสรรค์ การเรียนรู้ และการตลาดแล้ว ช่างภาพมืออาชีพอย่าง Gregg ยังต้องอาศัยประสิทธิภาพของอุปกรณ์เป็นอย่างมากด้วย
ในการถ่ายทำ
Gregg มีกล้องโซนี่หลายรุ่น ซึ่งเขาใช้ถ่ายภาพทางช้างเผือก ภาพฟุตเทจสไตล์ภาพยนตร์ และการถ่ายวิดีโอแบบเร่งความเร็ว (Time-lapse) นอกจากนี้ Gregg ยังแนะนำให้ใช้ขาตั้งกล้องที่เล็กลงสำหรับใช้ในพื้นที่สมบุกสมบันและพกเกลือแร่ไปด้วยเมื่ออยู่ในป่า เพราะเขาเคยเห็น “คนที่แข็งแรงบึกบึน แต่กลับร่วงเพราะความร้อนมาแล้ว” “ในแต่ละวัน Gregg มักจะใช้การ์ดหน่วยความจำ SanDisk Extreme PRO 128 GB ประมาณ 4 ถึง 6 ใบในการทำงานช่วงกลางวัน และเมื่อสิ้นสุดแต่ละวัน เขาต้องทำสำเนาเนื้อหาเอาไว้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย เพื่อให้เวิร์กโฟลว์ดำเนินไปอย่างราบรื่น ช่วงสองสามปีที่ผ่านมา อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบพกพาที่เขาใช้คือ G-DRIVE SSD และ G-DRIVE ArmorLock SSD ไดรฟ์แบบพกพาทั้งสองอย่างนี้ออกแบบมาโดยมีกล่องหุ้มที่แข็งแกร่งเพื่อป้องกันการถูกอัดหรือถูกกระแทกกับพื้นหินโดยไม่ได้ตั้งใจ ที่สำคัญ Gregg มักทำสำเนาข้อมูลไว้สองชุดเสมอ นอกเหนือจากในแฟลชการ์ดของเขา
“ผมไม่กล้าเสี่ยงกับการเดินทาง 80 กิโลเมตรเข้าไปในป่าลึก แถมยังต้องลอดถ้ำและผจญกับพื้นที่สุดโหดต่างๆ แล้วปรากฏว่าสุดท้ายแล้วไม่ได้อะไรกลับมาเลย” เขากล่าว “สำหรับผมแล้ว อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลคือสิ่งสำคัญที่สุด น่าแปลกที่ช่างภาพหลายคนกลับมองข้ามอุปกรณ์ที่สำคัญมากนี้”
เมื่อเร็วๆ นี้ Gregg ได้ลองใช้ G-DRIVE SSD สามชิ้นเป็นครั้งแรกในการถ่ายทำ เขาให้ความเห็นว่าอุปกรณ์ชุดนี้เป็น SSD ที่เร็วที่สุดเท่าที่เขาเคยใช้มา และยังมีขนาดเล็กจนสามารถใส่ SSD สองชิ้นลงในกระเป๋าเสื้อได้สบายๆ
“พกพาได้สะดวกมากจริงๆ ใครๆ ที่เห็นอุปกรณ์นี้ก็จะร้องว่า “โอ๊ย อะไรน่ะ” ผมก็จะตอบว่า “ใช่ นี่แหละ คุณอยากลองไหมว่าอุปกรณ์ 4 TB หนักไหมในกระเป๋าเสื้อคุณ” นี่เป็นอุปกรณ์โปรดของผมจริงๆ แล้วความเร็วในการเขียนก็สูงมาก! ผมถ่ายโอนวิดีโอ 4K, 120 FPS ที่มีภาพนิ่ง RAW จำนวนมหาศาล และยังทำงานไปด้วยได้และเสร็จเร็วกว่าแต่ก่อนเสียอีก ผมรู้สึกพร้อมมากๆ สำหรับโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ที่กำลังจะเข้ามาซึ่งเป็นวิดีโอ 6K, 8K”
ในสตูดิโอ
เมื่อ Gregg นำเนื้อหากลับมาที่สำนักงานในแมนฮัตตันบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย เขาจะใช้ G-RAID Shuttle 8 แบบ 8 เบย์เพื่อจัดเก็บฟุตเทจที่ได้จากการเดินทางไว้อย่างถาวร อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล G-RAID Shuttle 8 ให้การปกป้อง RAID บนฮาร์ดแวร์ตามที่เขาต้องการ ก่อนที่จะลบข้อมูลออกจากการ์ดในกล้องในท้ายที่สุด
โซลูชันที่สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ
Gregg ไว้วางใจในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลของ SanDisk Professional มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ผลิตภัณฑ์หลายต่อหลายรุ่นที่เขาใช้ คือองค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จระดับมืออาชีพและความสามารถในการทำงานกับโปรเจ็กต์สำคัญๆ ได้อย่างมั่นใจ ในฐานะเจ้าของธุรกิจ Gregg ทราบดีถึงข้อเสียจากการเลือกซื้อเครื่องมือสำคัญที่นำมาขายในราคาถูก แต่ขณะเดียวกันก็ไม่จำเป็นต้องเลือกตัวเลือกที่ราคาแพงที่สุด Gregg จึงมองหาอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับครีเอทีฟมืออาชีพ และพบว่า SanDisk Professional ได้มาเปิดงานแสดงสินค้า เขารู้สึกประทับใจกับความทุ่มเทและความคิดที่ก้าวหน้าของตัวแทนของบริษัท
แอมบาสเดอร์ของ SanDisk Professional คือผู้นำในสาขาที่เกี่ยวข้องที่ใช้ ผลิตภัณฑ์ SanDisk Professional ในการทำงานประจำวัน ตัวแทนของแบรนด์ SanDisk Professional ได้รับค่าตอบแทนสำหรับการมีส่วนร่วมของพวกเขา
ฮาร์ดไดรฟ์ภายนอก SanDisk Professional เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การสำรองข้อมูลโดยรวม ขอแนะนำให้สำรองข้อมูลโดยทำสำเนาไฟล์ต่างๆ ที่สำคัญที่สุดตั้งแต่สองชุดขึ้นไป หรือจัดเก็บไว้ในอุปกรณ์อื่นหรือบริการออนไลน์อยู่เสมอ