João Carlos
ช่างภาพแฟชั่น โฆษณา และผู้สร้างภาพยนตร์
João เกิดในนิวยอร์ก และเป็นช่างภาพและผู้กำกับภาพโฆษณา แฟชั่น และภาพในแนวศิลปะที่ได้รับรางวัล เขาเป็นแอมบาสเดอร์ของแบรนด์ Nikon และได้รับเชิญให้ไปบรรยายในงานอันทรงเกียรติต่างๆ มากมายในช่วงสองปีที่ผ่านมา อาทิ Hasselblad stage ที่ Photokinda ในเยอรมนี, งานเปิด Hasselblad Studio ในกรุงลอนดอน, งานอีเวนต์ Hasselblad FOCUS ที่จัดขึ้นหลายครั้งในโคลัมเบียกับบราซิล และอื่นๆ อีกมากมาย
ผลิตภัณฑ์เด่น
João Carlos และตำนานของนักเล่าเรื่อง
เมื่อสอบถาม João "JC" Carlos เกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นมาที่เขาคว้ารางวัลช่างภาพโฆษณา เขาจะเล่าย้อนถึงช่วงเวลาที่เขาอายุหกหรือเจ็ดขวบ เขาเป็นลูกชายของเชฟและผู้ประกอบการร้านอาหารชาวโปรตุเกสที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไบแรม เมืองนิวยอร์ก โดยมีพี่สาวสองคน และเขามักมีเวลาว่างเหลือเฟือ Joao จะเล่าให้คุณฟังถึงเรื่องน่ารักๆ ตอนที่คุณแม่ให้กล้องแบบใช้แล้วทิ้งแก่เขาเป็นของขวัญวันคริสต์มาส และเขาได้คืนกล้องตัวนั้นกลับไปเพราะมันไม่มีแฟลช แต่ขอกล้อง Polaroid Sun 600 ของคุณย่าแทน ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะในฐานะครอบครัวใหญ่ที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศต่างๆ มากกว่า 3 ประเทศและได้มารวมตัวกันในช่วงวันหยุดเทศกาล พวกเขาจึงต้องการแฟลชที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็วในหนึ่งวินาที การเตรียมพร้อมเป็นเรื่องสำคัญ
João จะไม่ค่อยเต็มใจที่จะเล่าเรื่องอื่นให้คุณฟังซึ่งไม่ค่อยมีอิทธิพลต่อเส้นทางอาชีพของเขามากเท่าเรื่องนี้ ในเดือนตุลาคม 2012 พายุเฮอริเคนแซนดี้ได้ถล่มชายฝั่งภาคตะวันออกของสหรัฐฯ João ซึ่งมักใช้เวลาส่วนใหญ่ของปีไปกับการถ่ายภาพในต่างประเทศ ในเวลานั้นก็ได้กลับมาที่อพาร์ทเมนต์ของเขาซึ่งตั้งอยู่ใต้ร้านอาหารของครอบครัว เมื่อพายุเฮอริเคนแซนดี้พัดถล่มและทำให้แมนฮัตตันไฟดับทั้งเมือง อพาร์ทเมนต์ของ João จมอยู่ใต้น้ำที่สูงถึง 12 ฟุต ภายในอพาร์ทเมนต์ของเขา มีรูปภาพที่เก็บสะสมมาหลายปีซึ่งบันทึกไว้ในดิสก์ออปติคัล พร้อมกับตู้เซฟเหล็กกล้าที่จัดเก็บรูปถ่ายที่ได้รับรางวัลและฮาร์ดไดรฟ์สองตัวที่อัดแน่นไปด้วยผลงานของเขา แต่ไม่มีอะไรหลงเหลือ
"ผมน่าจะกังวลเรื่องอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลดีๆ และหมั่นแบ็คอัพทุกอย่างเอาไว้" เขาพูด "ถ้าเป็นแบบนั้น ผมคงไม่ต้องมองย้อนกลับไปและพูดว่า “เฮ้ย! รูปที่เก็บรวบรวมมานับ 10 ปีหายไปหมดเลย” ทุกอย่าง…หายไปหมด…"
"ความเร็วคือปัจจัยสำคัญทั้งในตอนทำงานและเวลาสำรองข้อมูลงานของผม"
การอัปเกรดสู่ความเป็นเลิศ
บางทีอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ หลังเกิดพายุเฮอริเคนแซนดี้ไม่นานนัก João ได้มีโอกาสพูดคุยกับ Lucas Gilman เพื่อนที่เป็นช่างภาพด้วยกัน หลังจากเกิดอุบัติเหตุและประสบความล้มเหลวหลายต่อหลายครั้ง João รับฟังคำแนะนำจากพ่อมดด้านเวิร์กโฟล์การทำงานดิจิทัลที่มีชื่อเสียงอย่าง Lucas Lucas แนะนำให้ João ลองใช้ SanDisk Professional João เริ่มจากไดรฟ์แบบพกพาบางรุ่นของบริษัท แล้วจึงย้ายไปใช้ Evolution Series พร้อมแท่นวาง
เมื่อเขาเชื่อใจในความเชื่อถือได้และประสิทธิภาพการทำงานของ SanDisk Professional ที่ใช้จัดการกับการสำรองข้อมูลในสถานที่ถ่ายทำ João จึงเริ่มคิดว่าการอัปเกรดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลของเขาจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการทำงานด้านอื่นๆ อย่างไร สถานการณ์เริ่มมาถึงจุดสำคัญหลังช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่เขาถ่ายทำแคมเปญโฆษณา งานได้ขยายออกเป็นการถ่ายทำ 12 ครั้งในรูปแบบวิดีโอ 4 ชุดและทำให้เกิดข้อมูลรอว์ 6 TB ไม่เพียงแต่ João จะมึนงงเล็กน้อยว่าจะจัดเก็บข้อมูลไว้ที่ใด เพราะมีการนำนโยบายการสำรองข้อมูล 3 ชุดมาใช้เมื่อไม่นานนี้ เขาทราบดีว่าอาจจะมีงานที่คล้ายๆ กันนี้เข้ามาอีกอันเนื่องมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั้งในแง่ขนาดและขอบเขตงาน
ในช่วงแรกๆ João เริ่มต้นเส้นทางใช้ RAID ของเขาด้วย G-SPEED® Studio XL, อินเทอร์เฟซ Thunderbolt 2 แบบ 8 ช่องเสียบ ที่มีความจุสูงสุด 64 TB* และมีอัตราการถ่ายโอนข้อมูลต่อเนื่อง 1350 MB/s** Joao เปลี่ยนจากไดรฟ์เดี่ยว 36 ตัวมาเป็นทาวเวอร์ RAID ชุดเดียวที่พกพาสะดวก ซึ่งสามารถจัดเก็บโปรเจ็กต์งานต่างๆ ได้มหาศาลระหว่างออกทำงาน โดยที่อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเดียวกันนี้ยังให้ปริมาณงานได้ตามต้องการในการตัดต่อโปรเจ็กต์มัลติมีเดียแบบหลายแทร็กตามเวลาจริง และมีการป้องกัน RAID เพื่อความมั่นใจในความสมบูรณ์ของข้อมูลพิเศษ ทุกวันนี้ Joao ใช้ระบบชัตเทิลเดียวกันที่มี G-RAID SHUTTLE 8 พร้อมด้วย Thunderbolt 3 ซึ่งจะมอบความจุสูงสุด 144 TB* และอัตราการถ่ายโอนสูงสุด 2000 MB/s**
"ผมถ่ายภาพเยอะมาก แต่จะมีเพียงรูปเดียวที่สั่งพิมพ์ออกมา" João อธิบาย "ปกติแล้ว ผมไม่เคยต้องใช้รูปอื่นๆ ที่เหลือ แต่มีพวกเอเจนซี่สต๊อกภาพที่ต้องการทำงานกับผม เหมือนกับจะผมบอกว่า “เดี๋ยวก่อน ผมมีที่เก็บถาวรดีๆ ให้กับงานพวกนี้ ผมต้องลองเลือกใช้งานดู” การมีไดรฟ์ต่างๆ พวกนี้อยู่ทุกที่ มันก็ยิ่งทำให้ยุ่งวุ่นวายไปหมด แต่ด้วย Shuttle ตัวนี้ ผมสามารถรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ช่วยให้ผมจัดระบบได้ดีขึ้นมากเลย"
ทำไมอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลจึงสำคัญ
สำหรับชายที่เริ่มต้นด้วยการอุทิศตัวให้กับการถ่ายภาพแบบอนาล็อก (และการวาดภาพ ในช่วงก่อนหน้านั้น) João ได้หันมาให้ความสำคัญกับการประเมินลำดับความสำคัญเสียใหม่ในขณะที่อาชีพของเขาเริ่มเติบโตขึ้น ตอนนี้เขาตระหนักถึงคุณสมบัติ 4 ข้อที่โซลูชันอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลดิจิทัลจะต้องมี นั่นคือ ความจุ ความทนทาน ความเชื่อถือได้ และความเร็ว สามอย่างแรกดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับหลายคน ใครก็ตามที่ถ่ายเนื้อหาปริมาณมาก ย่อมจะต้องการอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีความจุสูงและมั่นใจได้ว่าจะไม่มีปัญหาภายหลัง แต่ทว่าเรื่องของ ความเร็ว อาจเห็นได้ไม่ชัด สำหรับ João แล้ว ความเร็วเป็นเรื่องสำคัญมาก จากประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นและความต้องการผลงานระดับมืออาชีพ
"ความเร็วมีความสำคัญเมื่อผมทำงานและแบ็คอัพข้อมูล" เขากล่าว "ผมไม่ได้ถ่ายภาพนิ่งตามปกติอีกต่อไป ผมถ่ายทำวิดีโอและภาพ 3 มิติเหล่านี้มากขึ้น เพื่อสร้างแฟนตาซีและอิมแพ็ค ท้ายวัน หลังจากที่ผมถ่ายรูปมาแปดชั่วโมงแล้ว ผมก็จะได้เนื้อหาหลายเทราไบต์ที่ต้องแบ็คอัพและแบ็คอัพซ้ำ ทุกอย่างจะต้องพร้อมสำหรับการตัดต่อและพิมพ์ออกมา ไม่ต้องเสียเวลาเพิ่มหลายชั่วโมง"
João นิยามตัวเองว่าเป็นนักเล่าเรื่อง ไม่ว่าเรื่องราวเหล่านั้นจะเล่าผ่านรูปภาพหรือภาพเคลื่อนไหวก็ตาม เรื่องราวในช่วงแรกๆ ของเขาได้สูญเสียไปอย่างไม่สามารถกู้คืนมาได้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นตอนนี้เขาจึงต้องพยายามปกป้องงานที่มีอยู่ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ใช่แล้ว อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเป็นส่วนหนึ่งของเวิร์กโฟลว์การทำงานสดของเขา และตอนนี้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของสตรีมรายได้ใหม่ แต่ลึกลงไปกว่านั้น นี่เป็นการสงวนรักษาเรื่องราวและศิลปะของเขาเพื่ออนาคต ภัยธรรมชาติอาจเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิดในหลากหลายรูปแบบ และเขาปฏิเสธที่จะทอดทิ้งผลงานของเขาไว้กับโชคชะตาอีกต่อไป
แอมบาสเดอร์ของ SanDisk Professional คือผู้นำในสาขาที่เกี่ยวข้องที่ใช้ ผลิตภัณฑ์ SanDisk Professional ในการทำงานประจำวัน แอมบาสเดอร์ของ SanDisk Professional ได้รับค่าตอบแทนสำหรับการมีส่วนร่วมของพวกเขา
ฮาร์ดไดรฟ์ภายนอก SanDisk Professional เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การสำรองข้อมูลโดยรวม ขอแนะนำให้สำรองข้อมูลโดยทำสำเนาไฟล์ต่างๆ ที่สำคัญที่สุดตั้งแต่สองชุดขึ้นไป หรือจัดเก็บไว้ในอุปกรณ์อื่นหรือบริการออนไลน์อยู่เสมอ
*หนึ่งเทราไบต์ (TB) = หนึ่งล้านล้านไบต์ ตามที่ใช้สำหรับความจุในการจัดเก็บข้อมูล ขนาดความจุที่สามารถเข้าใช้งานรวมทั้งสิ้นจะแตกต่างกันไปตามสภาวะแวดล้อมในการทำงานและการกำหนดค่าของ RAID/JBOD สำหรับผลิตภัณฑ์ RAID ความจุในการจัดเก็บข้อมูลจะอิงตามโหมด RAID 0
**เมกะไบต์ต่อวินาที (MB/s) = หนึ่งล้านไบต์ต่อวินาที และกิกะบิตต่อวินาที (Gb/s หรือ Gbps) = หนึ่งพันล้านบิตต่อวินาที ตามที่ใช้สำหรับอัตราการถ่ายโอนข้อมูลหรืออินเทอร์เฟซ ประสิทธิภาพอาจแตกต่างกันไปตามส่วนประกอบและการกำหนดค่าฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของคุณ